โพลสตาร์ ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติสวีเดน เปิดเผยว่า บริษัทได้เริ่มผลิตรถเอสยูวี โพลสตาร์ 3 ในสหรัฐอเมริกาแล้ว ซึ่งช่วยหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรที่สูงจากสหรัฐฯ สำหรับรถยนต์นำเข้าที่ผลิตในจีน
เมื่อเร็วๆ นี้ สหรัฐอเมริกาและยุโรปได้ประกาศจัดเก็บภาษีรถยนต์นำเข้าที่ผลิตในจีนในอัตราสูงตามลำดับ ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายเร่งแผนโอนการผลิตบางส่วนไปยังประเทศอื่น
โพลสตาร์ ซึ่งควบคุมโดยกลุ่มจีลี่ของจีน กำลังผลิตรถยนต์ในจีนและส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ต่อจากนั้น Polestar 3 จะผลิตที่โรงงานของวอลโว่ในเซาท์แคโรไลนา สหรัฐอเมริกา และจะจำหน่ายให้กับสหรัฐอเมริกาและยุโรป
Thomas Ingenlath ซีอีโอของ Polestar กล่าวว่าโรงงานในเซาท์แคโรไลนาของ Volvo คาดว่าจะมีการผลิตเต็มรูปแบบภายในสองเดือน แต่เขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยกำลังการผลิตของ Polestar ที่โรงงาน Thomas Ingenlath กล่าวเพิ่มเติมว่าโรงงานจะเริ่มส่งมอบ Polestar 3 ให้กับลูกค้าในสหรัฐฯ ในเดือนหน้า ตามด้วยการส่งมอบให้กับลูกค้าชาวยุโรป
Kelley Blue Book ประมาณการว่า Polestar ขายรถซีดาน Polestar 2 ได้ 3,555 คัน ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานแบตเตอรี่คันแรกของบริษัทในสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
Polestar ยังวางแผนที่จะผลิตรถคูเป้ Polestar 4 SUV ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ที่โรงงานของ Renault ในเกาหลี ซึ่งมี Geely Group เป็นเจ้าของบางส่วนเช่นกัน Polestar 4 ที่ผลิตจะจำหน่ายในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านั้น รถยนต์ของ Polestar ที่คาดว่าจะเริ่มส่งมอบรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาในปลายปีนี้จะได้รับผลกระทบจากภาษีดังกล่าว
การผลิตในสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของ Polestar ที่จะขยายการผลิตในต่างประเทศมาโดยตลอด และการผลิตในยุโรปก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของ Polestar เช่นกัน Thomas Ingenlath กล่าวว่า Polestar หวังที่จะร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์รายหนึ่งเพื่อผลิตรถยนต์ในยุโรปภายในสามถึงห้าปีข้างหน้า ซึ่งคล้ายกับความร่วมมือที่มีอยู่กับ Volvo และ Renault
Polestar กำลังย้ายการผลิตไปยังสหรัฐอเมริกา ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่สูงเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อได้ขัดขวางความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภค ส่งผลให้บริษัทต่างๆ รวมถึง Tesla ต้องลดราคา เลิกจ้างพนักงาน และชะลอการใช้รถยนต์ไฟฟ้า การวางแผนการผลิต
Thomas Ingenlath กล่าวว่า Polestar ซึ่งเลิกจ้างพนักงานเมื่อต้นปีนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การลดต้นทุนด้านวัสดุและโลจิสติกส์ และปรับปรุงประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนในอนาคต ซึ่งจะผลักดันกระแสเงินสดให้ถึงจุดคุ้มทุนในปี 2568
เวลาโพสต์: 18 ส.ค.-2024