เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวแพร่สะพัดทางอินเทอร์เน็ตว่า “Mercedes-Benz เลิกผลิตรถยนต์ไฟฟ้า” เมื่อวันที่ 7 มีนาคม Mercedes-Benz ตอบกลับว่า ความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของ Mercedes-Benz ที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่รถยนต์ไฟฟ้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในตลาดจีน Mercedes-Benz จะยังคงส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าต่อไป และนำเสนอผลิตภัณฑ์หรูหราหลากหลายประเภทให้กับลูกค้า
แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า Mercedes-Benz ได้ปรับลดค่า esta ลง
Mercedes-Benz ได้ประกาศเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้รถยนต์ไฟฟ้าในปี 2030 ในปี 2021 ว่าตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป รถยนต์ที่เปิดตัวใหม่ทั้งหมดจะใช้การออกแบบรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเท่านั้น โดยยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ (รวมถึงรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าล้วน) คิดเป็น 50% และภายในปี 2030 รถยนต์ไฟฟ้าล้วนจะขายได้
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ Mercedes-Benz ได้หยุดการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ Mercedes-Benz ประกาศว่าจะเลื่อนเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกไปอีก 5 ปี และคาดว่าภายในปี 2030 ยอดขายพลังงานใหม่จะคิดเป็น 50% นอกจากนี้ บริษัทยังรับรองกับนักลงทุนว่าบริษัทจะปรับปรุงโมเดลเครื่องยนต์สันดาปภายในต่อไป และวางแผนที่จะผลิตยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในต่อไปภายใน 10 ปีข้างหน้า
การตัดสินใจครั้งนี้มีปัจจัยหลายอย่าง เช่น การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของตนเองไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดที่อ่อนแอ ในปี 2023 ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกของ Mercedes-Benz จะอยู่ที่ 2.4916 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 1.5% จากปีก่อน โดยรถยนต์ไฟฟ้ามียอดขาย 470,000 คัน คิดเป็น 19% จะเห็นได้ว่ารถบรรทุกน้ำมันยังคงเป็นกำลังหลักในการขาย
แม้ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่กำไรสุทธิของ Mercedes-Benz ในปี 2023 ลดลง 1.9% จากปีก่อนหน้าเหลือ 14.53 พันล้านยูโร
เมื่อเทียบกับรถบรรทุกน้ำมันซึ่งขายง่ายและสามารถสร้างผลกำไรให้กับกลุ่มได้อย่างต่อเนื่อง ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้ายังคงต้องมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาถึงการปรับปรุงผลกำไรแล้ว จึงสมเหตุสมผลที่ Mercedes-Benz จะชะลอกระบวนการเปลี่ยนมาใช้ไฟฟ้าและเริ่มการวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในอีกครั้ง
เวลาโพสต์ : 09 มี.ค. 2567